www.trueplookpanya.com

www.trueplookpanya.com

www.trueplookpanya.com

www.trueplookpanya.com

จำนวนผู้ชม

วันอาทิตย์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2553

วิธีขับรถอย่างปลอดภัย


การขับแบบ "อาจจะ"


"อาจจะ" คือการคาดคะเนล่วงหน้าว่าอาจเกิดอันตราย
ได้ อุบัติเหตุบนท้องถนนส่วนใหญ่เกิดจากการที่ผู้ขับขี่
ขาดการคาดคะเนถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเวลา
จึงก่อให้เกิด อุบัติเหตุมากมาย ตัวอย่างเช่น การขับรถ
ผ่านรถเมล์ซึ่งกำลังจอดรับผู้โดยสารอยู่ข้างหน้า ถ้าผู้
ขับขี่เพียงแต่คาดคะเนว่า "อาจจะ"มีคนกำลังจะข้าม
ถนนโดยที่รถเมล์บังอยู่ก็ได้ อุบัติเหตุก็จะไม่เกิดขึ้น
ในทางตรงกันข้าม ถ้าคิดว่า "คงจะ" ไม่มีคน หรือไม่
ได้คิดอะไรเลย เกี่ยวกับรถเมล์ หรือคนเดินข้ามถนน
แล้วขับรถผ่านไปตามปกติ ก็อาจจะก่อให้เกิดอุบัติเหตุ
ชนผู้ที่กำลังจะข้ามถนนได้

การที่มองไม่เห็น ไม่ได้หมายความว่าไม่มี อะไร


จากตัวอย่างที่แล้ว ถ้าลองฟังเหตุผลของผู้ขับขี่ที่ได้ก่อ
อุบัติเหตุชนคนข้ามถนนจะได้ความว่า "อยู่ดีๆ ก็มีคน
โผล่พรวดออกมา ช่วยไม่ได้จริงๆ" ซึ่งเป็นคำตอบที่
แสดงให้เห็นว่า ยังไม่ได้ตระหนักถึงสาเหตุที่แท้จริง
ที่ตนขาดการคาดคะเนล่วงหน้าถึงอันตรายที่จะเกิด
ขึ้นได้ การที่มองไม่เห็นไม่ได้หมายความว่าไม่มีอะไร
อยู่ข้างหน้า รถที่กำลังจอดอยู่ "อาจจะ" มีคนกำลังข้าม
ถนน และถ้ามีคนออกมากระทันหันจริงๆ แล้ว ก็จำเป็น
ต้องคิดหาวิธีป้องกันอุบัติเหตุ เช่น การลดความเร็วลง
เป็นต้น แม้ความเร็ว 40 กม./ชม. จะทำให้ชนคนได้
ทว่าความเร็ว 20 กม./ชม. จะทำให้สามารถหยุดรถได้
อย่างปลอดภัยทันท่วงที


เทคนิคในการคาดคะเนอันตราย
คนเราถ้าปิดตาอยู่ก็จะขับรถไม่ได้หรือถึงแม้ลืมตาแต่
จิตใจไม่อยู่กับตัว หรือมองไปยังสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับการ
ขับรถเลย ก็ไม่ถือว่าเป็นการขับรถอย่างปลอดภัย
การรับรู้สถาพต่างๆ ที่อยู่ข้างหน้าอย่างถูกต้อง
ในระหว่างการขับขี่จะต้องระมัดระวังข้างหน้า- หลัง
-ซ้าย-ขวา อยู่ตลอดเวลาและจำเป็นจะต้องรับรูู้้ให้ถูกต้อง
และรวดเร็วเกี่ยวกับสภาพของถนนว่ามีคนหรือรถอยู่หรือ
ไม่ มีการเคลื่อนไหวอย่างไร


รถ B เห็นรถ C จอดอยู่ จึงลดความเร็วและหักรถ
เบี่ยงออกมา ส่วนรถ A มัวแต่มองผู้หญิงทางด้านซ้าย
มือ จึงไม่รับรู้ว่ารถ B ลดความเร็วลง จึงเกิดชนกันขึ้น

สังเกตให้ดีว่ามีหรือไม่
การขับขี่ให้ปลอดภัยนั้น จะต้องแน่ใจว่าที่ตรงนั้นไำม่มีคน หรือรถวิ่งออกมา เพราะถ้าทราบแน่ชัดว่าไม่มีคนหรือ
รถอยู่ที่นั่นแล้ว จึงสามารถบอกได้ว่าจะมีอันตรายหรือไม่ แม้ว่าในกรณีที่มองไม่เห็น เพราะหลบมุมสายตาอยู่ แต่ถ้า
ใช้ความสังเกต บางสิ่งบางอย่างก็ช่วยลดอุบัติเหตุได้



การคาดคะเนการเคลื่อนไหวของรถคันอื่นและผู้ใช้ถนน
การเห็นเพียงว่ามีรถคันอื่น หรือคนอยู่ในบริเวณนั้นยังไม่้เป็นการเพียงพอ ผู้ขับรถจำเป็นจะต้องคาดคะเนได้อย่างถูก
ต้องว่า คนหรือรถนั้นจะเคลื่อนไหวไปอย่างไร ตัวอย่างเช่น กรณีที่เป็นคนเดินถนน ควรสังเกตจากการเคลื่อนไหวของ
เขาจากสายตาและมุมที่ยืน
เขากำลังจะทำอะไร
เขาทราบหรือไม่ว่า มีรถกำลังมา เป็นต้น
จึงจำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังและคาดคะเนให้ถูกต้อง


ในกรณีที่ไม่สามารถคาดคะเนการเคลื่อนไหวของสิ่งที่อยู่ข้างหน้าได้จะต้องลดความเร็วลง แม้คนหรือรถจะ
อยู่ในสภาพไม่้ได้ระมัดระวังเลยก็ตาม ผู้ขับขี่จำเป็นต้องคิดมาตราการเพื่อความปลอดภัยมาแก้ไขสถานการณ์ล่วง
หน้า.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น